วันเสาร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2553

Special Issue : My beloved Philly Part III

หลังจากที่เราเดินมาเรื่อยๆแล้วไปเข้าชมพิพิธภัณฆ์ที่สำคัญๆของเมืองนี้แล้วนั้นที่สุดท้ายที่จะแวะไปก่อนกลับและเป็น Landmark ของที่นี่คือน้ำพุ LOVE  ค่ะ


มาดูประวัติของที่นี่กันสักนิด ... Love Park เป็นสมรภูมิไอเดียของอดีตนักวางแผนเมือง  Edmund Bacon และสถาปนิก Vincent King ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามศาลากลางพอดีเป๊ะสวยงามมากๆ  ประติมากรรมความรักที่มีชื่อเสียงนี้ออกแบบโดย Robert Indiana และถูกวางครั้งแรกในลานในปี 1976 เป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองอายุสองร้อยปีของสหรัฐอเมริกา

.....
แล้วก็ถึงเวลาที่เราต้องบอกลา Philadelphia กันแล้วอยากบอกว่าประทับใจเมืองนี้มากจริงๆ :)

Special Issue : My beloved Philly Part II

มาต่อกันเลยค่ะเรามุ่งหน้ามาที่ Independence Hall แต่ไม่ได้เข้าไปข้างในเพราะหาทางเข้าไม่เจอค่ะ :P เราเลยมาเดินชมนิทรรศการในฝั่งตรงข้ามแทน เป็นที่ตั้งของ Liberty Bell และประวัติศาสตร์ของเมืองฟิลาเดเฟียค่ะ
  
บรรยากาศโดยรอบดีมากๆค่ะ มีเด็กๆมาทัศนศึกษาทำให้ที่นี่คึกคักมากๆ เด็กทุกคนจะมีปากเป็ดคนละอัน พวกเราเรียนกันว่าทัวร์ลูกเป็ดค่ะเพราะพวกเค้าจะเป่าปากเป็ดเป็นเสียง แคว๊กแคว๊ก

ทัวร์ลูกเป็ด
Ride the Duck เป็นทัวร์ที่จะพาชมสถานที่รอบๆเมืองฟิลาเดเฟียเป็นรถที่สามารถวิ่งได้บนถนนและในน้ำ น่าสนใจมากๆและเค้าจะแจกปากเป็ดแก่ลูกทัวร์ทุกๆคนด้วย..อยากได้ :)
Ride the Duck
ส่วนรอบๆอาคารจะมีรถม้าบริการแล้วแต่ละคันจะมี Theme ที่แตกต่างกันไปด้วย รถม้าจะพาทัวร์ไปรอบๆค่ะน่าจะเพลินดี  
  

Special Issue : My beloved Philly



มีอยู่วันหนึ่งไปเดินซื้อของที่ Potomac Mills Outlet ระหว่างทางรอรถจะกลับไปบ้านและมีเพื่อนอีก 2 คนกำลังจะไปขึ้นรถทัวร์เพื่อนไปฟิลาเดเฟียด้วยความที่ ตั๋วเหลืออยู่ 1 ใบพอดีก็เลยโดนบังคับให้ไปด้วย ไอเรากับพี่อีกคนก็ งงๆ ก็เลยเอาละกันตกลงไปกับเค้าแต่เราไปกัน 4 คนแต่มีตั๋วแค่ 3 ใบเลยตัดสินใจว่าจะไปซื้อเอาข้างหน้าละกันว่าแล้วจากจุดหมายคือกลับบ้านก็เปลี่ยนไปเป็นไปฟิลาเดเฟียแทน เป็นการเที่ยวต่างรัฐครั้งแรกและไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลยด้วย แต่ก็ งงๆมึนๆดีเหมือนกันนะคะ - -

สถานี Amtrak @ Philadelphia
เราก็นั่ง Metro ไปลงที่ Chinatown เพื่อที่จะไปขึ้นรถทัวร์ของ Megabus มุ่งหน้าไปฟิลาเดเฟียใช้เวลาเดินทางแค่ 3-4ชั่วโมงเท่านั้น เราไปรอบสุดท้ายของวันนั้นทำให้ตั๋วที่จองไว้ล่วงหน้าไว้คาถูกมากๆแค่ $7 เท่านั้น (เพื่อนบางคนจองล่างหน้านานๆจนได้ตั๋วในราคาไปกลับ $2 ก็มี) แต่พี่ที่ไปซื้อเพิ่มตั๋วก็ถูกอัพราคาไปเป็น $20 เหรียญทันทีคะ เมื่อรถออกจากตัวเมืองดีซี หลับไปไม่นานก็ถึงPhillyแล้ว แต่เวลาที่เราไปถึงเป็นเวลา ตี4 ไม่มีที่ไหนเปิดเลย แล้วไม่รู้จะไปไหนเราก็เลยต้องมานอนรอที่สถานีรถไฟ แอร์เย็นเจี๊ยบเงียบสงบมากๆเหมาะกับการนอนที่สุด
วางแผนการเดินทาง
 หลังจากที่เราวางแผนการเดินทางคร่าวๆแล้วเราก็ไปซื้อตั๋ว Onedaypass ในสถานีรถไฟใต้ดิน ซึ่งตั๋วเนี้ยสามารถใช้ได้กับทุกอย่างๆทั้งรถเมล์และMetroค่ะ


พอออกมาจาก Metro จำไม่ได้ว่าสถานีไหนก็เจอกับ City Hall ใจกลางเมืองฟิลาเดเฟีย เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยๆมากๆ ตอนแรกคิดว่าฟิลาจะเป็นเมืองเก่าๆมีแต่ศิลปะแบบบ้านเก่าๆแต่ไม่ใช่ค่ะ ฟิลาเป็นเมืองที่มีตึกสูงๆเหมือนกัน ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่นิวยอร์คเลยแต่เป็นนิวยอร์คที่สะอาดแล้วนะคะประทับใจกับเมืองนี้ในนาทีแรกที่เห็นจริงๆ

City Hall

ฟิลลี่เป็นเมืองที่ไม่ใหญ่สามารถเที่ยวได้ครบในวันเดียว เมือนี้เป็นเมืองเล็กๆที่ผสมความทันสมัยไว้ได้ลงตัวมากๆกับศิลปะและสถาปัตยกรรมที่สวยงาม

หาอะไรทานที่ Chinatown
 เราก็เดินไปเรื่อยๆจนเจอเข้ากับ Chinatown หลังจากหาอะไรทานเรียบร้อยก็มีคนปิ๊งไอเดียขึ้นมาว่าไปนั่งรถเล่นกันมั้ยแล้วเราก็ยืนรออยู่ที่ป้ายรถเมล์พอคันไหนมาเราก็กระโดดขึ้นเลย แล้วก็ได้ผลจริงๆเราได้ชมรอบเมืองฟิลาเดเฟียจริงๆแล้วตื่นเต้นดี เราตั้งใจว่าจะไปลงที่สุดสายของรถคันนี้แล้วรถคันนี้ก็ออกนอกตัวเมืองไปตอนแรกเราก็ตกใจแต่ว่าถึงยังไงรถเมล์ก็ต้องวนกลับมาที่เดิมจริงมั้ย :) เราหลับไปตื่นนึงรถเมล์ก็ยังไม่สุดสายสักที 55 แต่ปลายทางของจุดหมายคือสิ่งที่สวยงามเสมอจริงๆค่ะ เราไปเจอกับ Village เล็กๆที่เต็มไปด้วยแบรนด์ต่างๆเยอะแยะมาก เราตื่นเต้นกันมากจริงๆเพราะไม่ได้คาดหวังว่าจะมาเจอกับอะไรแบบนี้ ยังกับ Woderland แหนะ


ในนี้ก็มีร้านของแบรนด์ต่างๆเช่น Coach, GAP, ห้าง Macy's และ Urban Outfitters บรรยากาศดีมากๆอีกด้วย

หลังจากเดินเล่นชิวๆพอสมควรแล้วก็ไปที่ป้ายรถเมล์เพื่อที่จะกลับไปที่ Downtown ที่เราจะไปคือ Indepentdent Hall สายที่นั่งไปได้คือ 44 มาพอดีก็ลุยกันเลย :)
ป้ายรถเมล์

Vistied Dupont Circle, Washington DC


เพื่อนชวนไปเที่ยว Dupont Circle ในวัน day off ค่ะภาพตึกที่เห็นด้านบนจะเป็นตึกที่เห็นได้ทันทีตอนขึ้นมาจาก Metro ค่ะ รูปแบบของตึกสวยมากๆ แต่จุดนี้ก็ไม่ใช่จุดหมายของการเดินทางหรอกนะคะพอดีออกจาก Metro ผิดทางนะค่ะ เค้าให้เลี้ยวซ้ายแต่ดันไปเลี้ยวขวา -*-
Dupont Circle Fountain

พอเดินไปถูกทางแล้วก็จะเจอกับน้ำพุ เป็นเกาะกลางถนนลักษณะวงกลมมีสวนขนาดย่อยๆรอบๆค่ะ แล้วรอบๆนั้นก็จะเป็นถนนแยกๆออกไปเป็นแฉกๆค่ะ
แล้วจุดหมายของเราในวันนี้หลักๆคือมาเดินตลาดนัดค่ะเพราะอยากรู้ว่าตลาดนัดของที่นี่จะเป็นยังไง หลังจากที่เราหาทิศถูกแล้วก็เดินไปไม่ไกลนักจากตัวน้ำพุค่ะแค่ข้ามถนน 2 ครั้งก็เจอ
ร้านขายดอกไม้ซื้อดอกไม้ประเทศนี้ใช้บัตรเครดิตได้ด้วยนะคะ
ตลาดที่เรามาเดินในวันนี้มีขนาดย่อมๆ ไม่ใหญ่มากขายของสดค่ะ มีทั้งดอกไม้ ขนมปัง เห็ดพันธุ์ต่างๆ นมสด อาหารทะเล ชีสแบบต่างๆ และอย่าอื่นอีกมากมาย เค้ามีให้ชิมฟรีทุกร้านนะคะ เดินไปเรื่อยๆก็เพลินดีค่ะเพราะบรรยากาศดีมากๆ

พอหลังจากเดินเสร็จแล้วก็เดินต่อไปเรื่อยๆอย่างไร้จุดหมายค่ะ :P แต่ก็ชิวๆดีค่ะเพราะตึกของที่นี่สวยๆทุกตึกเลย อากาศก็ไม่ร้อนมากทำให้เดินไปได้เรื่อยๆอย่างสบายๆเลยค่ะ

วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

The Classy George Town @ Foggy Bottom,DC

credit : google
วันนี้จะพาไปเที่ยว George Town ถนนสายยาวๆ ที่ 2 ข้างทางเต็มไปด้วยร้านค้าจาก แบรนด์ดังๆเยอะแยะเต็มไปหมด เช่น Coach , Juicy , H&M ,Sephora, DKNY, Dean&Decula ,Zara etc. แต่ที่ขาดไม่ได้ Urban Outfitter(ร้านขายเสื้อผ้าวัยรุ่นที่มีสไตล์น่ารักมากๆ แต่ราคาแพงมากๆ 55) 

กิจกรรมเวลาไปที่นี่ส่วนมากก็จะเป็น Shopping or Windows Shopping :P  
Urban Outfitters ของสาวๆ : credit : flickr.com
Dean & Decula

Dean & Decula เป็นเหมือนตลาดติดแอร์เล็กๆ มีทั้งอาหารสดและอาหารแห้งขาย
บรรยากาศหน้าเดินมากๆ ของที่มี่จะมีแต่สินค้าคุณภาพดีๆหน้าซื้อ  
Spring Here
 ถึงแม้ไม่ได้ไปซื้อของแต่แค่ได้ไปเดินชิวๆที่นี่ก็มีความสุขที่สุดแล้วค่ะ บรรยากาศดีมากๆโดยช่วงเมษาจะเป็นช่วงที่อากาศดีสุดๆไม่ร้อนและไม่หนาวเกินไปแค่ได้ Starbucks อุ่นๆสักแก้วแค่นี้ก็มีความสุขไม่น้อยค่ะ

My Colorful Old town @ Washington DC


 Old Town @ King Street,Washington DC เป็นถนนที่น่ารักมากค่ะ
ตามตึกต่างๆจะเต็มไปด้วยสีสัน ยิ่งเวลาค่ำๆหน่อยจะสวยมากเพราะที่นี่จะเปิดไฟ
ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในช่วง Christmas ตลอดเลย
2 ข้างทางจะเป็นร้านขายของพวก antique ถ้าใครตกแต่งบ้านอยู่
ถนนเส้นนี้ตอบโจทย์ได้ดีสุดๆ :)

การเดินทางไปก็ไม่ยากเลย แค่ขึ้น Metro สายสีน้ำเงินมาลงที่สถานี King Street แล้วตรงหน้าสถานีก็จะมีรถเมล์สีแดงจอดรออยู่ รถนี้จะเวียนรับส่งคนที่จะไปOld Town ที่สำคัญ ฟรีค่ะ :)
รถ Trolley สีแดงสดใส

 พอเดินไปสุดทางก็จะเจอกับท่าเรือ บรรยากาศดีมากจะมีเสียงเพลงเบาๆ
มีคนมานั่งวาดรูป บรรยากาศดีมากจริงๆค่ะ
ภาพเบลอๆ แต่บรรยากาศดีจิงๆนะ :P


P.S.เขียนครั้งแรกถ้า งงๆ หรือข้อมูลผิดไปก็ขอโทษด้วยนะคะ :):)

The 1st time i've been to the Stated

Last year, my friend &I decided to join WAT program.
it's such a great program ever :)
Here's my story begins.
Here's My Washington DC, Maryland